รับเหมาทำฝ้านครราชสีมา รับทำฝ้าทีบาร์ ฝ้าดรอป ฝ้าฉาบเรียบ ฝ้าหลุม ผนังเบาพร้อมรับออกแบบฝ้า ช่างฝ้านครราชสีมา รับติดตั้งฝ้า รับทำฝ้า ทั้งฝ้าหลุม ฝ้าดรอป พร้อมทาสีหลุมดรอป ฉาบเรียบ ฝ้าทีบาร์ ผนังเบา รับทำไฟ ฝ้า และทาสี แบบครบวงจร รับซ่อมฝ้าเพดานนครราชสีมา รับรองฝีมือและของได้มาตรฐานไม่เอาของย้อมแมว รับประกันคุณภาพ รับทำงานฝ้ามากว่า 20ปี รับออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมฝ้า ได้ทุกชนิด ทุกงานออกแบบ ช่างติดตั้งฝ้าเพดานนครราชสีมา พร้อมให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ จากช่างผู้เชี่ยวชาญและมีประสบกรณ์ พร้อมทีมงานมืออาชีพ ตัวอย่างผลงานการทำงานฝ้า เช่น ตึกใบหยก ฟิวเจอร์รังสิต ห้างมาบุญครอง สนามบินสุวรรณภูมิ โรงแรมชันไซบีชพัทยา คอนโด หมู่บ้าน ต่างๆ
ช่างทําฝ้าเพดานนครราชสีมา
ช่างฝ้าเพดานนครราชสีมา
ช่างซ่อมฝ้าเพดานนครราชสีมา
รับเหมาติดตั้งฝ้าเพดานนครราชสีมา
ช่างทําฝ้านครราชสีมา
ช่างฝ้าฉาบเรียบนครราชสีมา
รับเหมาทําฝ้าเพดานนครราชสีมา
ช่างฉาบฝ้านครราชสีมา
เหมาทําฝ้าฉาบเรียบนครราชสีมา
รับเหมาทำฝ้านครราชสีมา
การสร้างบ้านหนึ่งหลังมีรายละเอียดจุดเล็กจุดน้อยที่ต้องให้ความใส่ใจมากมาย ตั้งแต่หลังคาถึงฐานราก ช่างฝ้านครราชสีมา ด้วยความที่เป็นงานใหญ่ผู้เป็นเจ้าของอาจจะรู้สึกว่า “บ้าน” เป็นเรื่องไกลตัว ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้รับเหมาและช่าง ซึ่งในความเป็นจริงนั้น แม้ช่างและผู้รับเหมาจะมีความรู้เชี่ยวชาญกว่าเจ้าของบ้าน แต่ไม่มีใครที่จะรักบ้านของเราได้มากยิ่งกว่าเจ้าของบ้านเองแน่นอน
คงจะดีกว่าถ้าเจ้าของบ้านพอจะมีความรู้เกี่ยวกับบ้านเอาไว้บ้าง เพื่อสามารถตรวจสอบได้ว่า งานก่อสร้างแต่ละจุดเป็นไปตามมาตรฐานงานที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะจุดที่ค่อนข้างลับตาอย่างบนฝ้าเพดาน ซึ่งจะมีงานระบบต่าง ๆ ซ่อนไว้และมีฝ้าปิดทับไว้อีกที ก่อนที่ช่างจะมาลงมือติดตั้งเจ้าของบ้านควรเช็คความเรียบร้อยของพื้นที่ใต้หลังคาให้ดี เพราะหากช่างทำการปิดฝ้าแล้วมีปัญหาภายหลัง แม้จะมีช่อง Service ก็ย่อมเป็นการยากมากที่จะแก้ไขให้สวยงามได้เช่นเดิม เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” รวบรวม 5 จุดเช็คลิสต์ที่เจ้าของบ้านควรตรวจสอบก่อนที่ช่างจะเริ่มขั้นตอนติดตั้งฝ้าเพดานครับ
1. เช็คงานเดินสายไฟ
บนเพดานเป็นจุดสูงสุดของบ้านที่ช่างมักจะทำจุดพักไฟฟ้าไว้ใต้เพดาน ช่างทําฝ้าเพดานนครราชสีมา เพื่อความเรียบร้อยไม่มีสายไฟระโยงระยางในตัวบ้านให้เกิดอันตราย และสามารถไล่เช็คแก้ไขวงจรได้ง่าย จากการสำรวจพบว่า ผู้รับเหมาหรือโครงการบ้านหลาย ๆ แห่ง ทำการเดินสายไฟแบบเปลือยทั้งหมดไม่ได้ร้อยสายไฟไว้ในท่อ ซึ่งอันตรายมากครับ เพราะสายไฟเสี่ยงต่อการถูกสัตว์กัดแทะหรือชำรุดได้ง่าย จะทำให้ไฟรั่วและเกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้สร้างความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินได้
ดังนั้นก่อนจะติดตั้งฝ้าเพดาน เจ้าของบ้านควรตรวจเช็คว่าสายไฟมีท่อร้อยสายห่อหุ้มไว้เรียบร้อยหรือไม่ กรณีการเดินสายไฟฟ้าภายในอาคารด้วยวิธีร้อยสายไฟในท่อและเดินท่อไว้บนฝ้าเพดาน ควรใช้ท่อพีวีซี (PVC, Polyvinyl Chloride) สำหรับงานระบบไฟฟ้าเท่านั้น (ท่อสีเหลือง) มาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรม เลขที่ มอก. 216-2524 มีคุณสมบัติทนความชื้น ไม่ขึ้นสนิม ทนความร้อนได้ 60 องศาเซลเซียล จุดที่ต่อสายไฟฟ้าต้องอยู่ใน junction box เท่านั้น ไม่ควรต่อสายไฟฟ้าในท่อร้อยสายไฟหรือตำแหน่งอื่นๆ
2. เช็คจุดรั่วซึมห้องน้ำชั้นบน หลังคาและท่อแอร์
ข้อนี้เป็นจุดสังเกตสำหรับบ้านที่มี 2 ชั้นขึ้นไป ซึ่งมักจะมีปัญหาน้ำรั่วซึมจากห้องน้ำชั้นบนและไหลลงสู่ฝ้าเพดาน ช่างฝ้าเพดานนครราชสีมา ทำให้เกิดร่องรอยน้ำและนำมาสู่ปัญหาฝ้าถล่มได้ จึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีร่องรอยการรั่วซึมหรือมีความชื้นใด ๆ ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฝ้าเพดานในอนาคต วิธีการทดสอบการรั่วซึมจากห้องน้ำ ทำด้วยการปิดปากช่องระบายน้ำแล้วเทน้ำขังไว้ จากนั้นลองสังเกตว่า มีรอยหยดน้ำบริเวณพื้นชั้นล่างหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่ามีการรั่วซึม ต้องรีบหาต้นเหตุและแก้ไข นอกจากจุดรั่วซึมจากห้องน้ำแล้ว ยังมีจุดอื่น ๆ ที่มีส่วนทำให้ฝ้าเสียหายได้ เช่น การรั่วซึมจากขอบผนัง, หน้าต่าง, หลังคาบ้าน, การรั่วซึมจากงานระบบต่าง ๆ อาทิ ท่อแอร์, ท่อระบบประปา, ท่อระบายน้ำเสีย เป็นต้น
3. เช็ควัสดุโครงคร่าวฝ้าเพดาน
โครงคร่าว คือ โครงที่เตรียมไว้สำหรับติดตั้งวัสดุฝ้าเพดาน ประกอบด้วย โครงบน ช่างซ่อมฝ้าเพดานนครราชสีมา (โครงคร่าวหลัก) และอาจจะมีโครงล่าง (โครงคร่าวซอยหรือโครงรอง) ช่วยเสริมความแข็งแรงตามระยะการติดตั้งมาตรฐาน เจ้าของบ้านจึงต้องมั่นใจว่าโครงคร่าวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้วัสดุที่ได้รับมาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อป้องกันปัญหาการแอ่นตัวหรือตกท้องช้าง โดยให้ตรวจเช็คสเปควัสดุและระยะห่างของโครงคร่าวจากแบบก่อสร้าง โดยทั่วไปโครงคร่าวหลักมีระยะประมาณ 1-1.2 เมตร และโครงคร่าวรองระยะห่างประมาณ 0.4 เมตร ทั้งนี้อุปกรณ์และวัสดุโครงคร่าวควรถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกันโดยเฉพาะทั้งระบบ ตั้งแต่ชุดแขวน เช่น พุกเหล็ก ฉากยึดใต้ท้องพื้น ลวดแขวน สปริงปรับระดับ และอุปกรณ์ล็อกต่าง ๆ อาทิ คลิปล็อคโครง ขอล็อคโครง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากตราปั๊มบนผลิตภัณฑ์
4. เช็คความสูงและแบบฝ้า
อาจจะเรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญสำหรับเจ้าของบ้านหลาย ๆ หลังก็ว่าได้ เจ้าของบ้านบางท่านได้กำหนดสเปคความสูงฝ้าเพดานไว้แล้วว่าควรสูงเท่าไหร่ เช่น ฝ้าเพดานห้องนอนนครราชสีมา สูง 2.6-2.8 เมตร ฝ้าเพดานห้องนั่งเล่นสูง 2.8-3.5 เมตร หลังจากช่างทำการติดตั้งโครงคร่าวไว้เรียบร้อยแล้ว หากต้องการความมั่นใจในระยะความสูง เจ้าของบ้านสามารถตรวจเช็คความสูงฝ้าเพดานแต่ละจุดได้ในขั้นตอนนี้ โดยวัดจุดเริ่มต้นที่พื้นห้องและจุดปลายที่โครงคร่าวฝ้าเพดาน จะได้ความสูงที่ใกล้เคียงกับความสูงของฝ้าเพดานครับ หรือหากจุดใดของฝ้ามีการออกแบบลักษณะพิเศษ เช่น ฝ้าซ่อนไฟหรือฝ้าหลุม ให้พูดคุยกับช่างอีกครั้ง เพื่อทบทวนความเข้าใจที่ตรงกันอีกรอบ ย่อมเพิ่มความรอบคอบยิ่งขึ้นครับ
5. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนในขั้นตอนทำฝ้า
กรณีที่บ้านชั้นเดียวหรือบ้านสองชั้น ต้องการเพิ่มฉนวนป้องกันความร้อนให้บ้าน รับเหมาติดตั้งฝ้าเพดานนครราชสีมา สามารถเพิ่มเข้าไปได้ในขั้นตอนก่อนติดตั้งฝ้าเพดานได้เลยครับ เพราะสะดวกกว่าการติดตั้งหลังปิดฝ้าเพดานไปแล้ว ซึ่งช่างต้องขึ้นผ่านช่องฝ้าทีบาร์หรือช่องเซอร์วิสบนฝ้าฉาบเรียบ เพื่อนำฉนวนกันความร้อนไปติดตั้ง อย่างไรก็ตามขอแนะนำว่าควรร้อยสายไฟในท่อให้เรียบร้อยก่อน เพราะงานฉนวนในบางผลิตภัณฑ์จะไม่รับติดตั้งในกรณีไม่ร้อยสายไฟ เนื่องจากต้องวางฉนวนเอาไว้ใต้สายไฟ หากไม่ร้อยสายไฟในท่อจะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวผลิตภัณฑ์และบ้านได้
3 ประเภทแผ่นฝ้าเพดาน ที่คนสร้างบ้านต้องรู้
ฝ้าเพดานในแต่ละบ้านนั้นมีความสำคัญ เพราะทำหน้าที่ในการปกปิดโครงสร้างหลังคา ช่างทําฝ้านครราชสีมา และช่วยบังความไม่เรียบร้อยของงานระบบต่าง ๆที่อยู่เหลือเหนือพื้นที่ฝ้า เช่น ท่อน้ำและสายไฟ กล่าวคือช่วยเพิ่มความสวยงามของตัวบ้าน และทำให้น่ามองอีกด้วย
แต่ละห้องภายในบ้าน มีการใช้งานและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน เช่น ห้องที่อยู่ชั้นบนสุดจะได้รับความร้อนมากกว่า หรือในห้องน้ำมักมีความชื้นสูง การติดตั้งแผ่นฝ้าเพดานจึงต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและเลือกใช้ให้ถูกประเภท โดยแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อติดตั้งตามสภาพการใช้งานและความต้องการที่ต่างกันไปของแต่ละพื้นที่ หลักๆ แล้วสามารถแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. ฝ้าเพดานตกแต่ง
ใช้วัสดุเฉพาะมาทำเพื่อตกแต่งไปเลยในตัว เช่น ไม้แท้ ไม้อัด รวมถึงฝ้าแบบกระจก ช่างฉาบฝ้านครราชสีมา เน้นความสวยงามเป็นหลักและอาจจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษหลังติดตั้ง ยกตัวอย่างฝ้าไม้ ก็อาจจะต้องมีการเคลือบน้ำยาป้องกันปลวก หรือถ้าเป็นฝ้ากระจกจะต้องระวังในเรื่องของความแข็งแรงเพราะอาจจะแตกหรือตกลงมาได้
แผ่นฝ้าเพดานตกแต่ง นิยมใช้ในห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือบริเวณชายคา รับเหมาทำฝ้านครราชสีมา เนื่องจากต้องพิถีพิถันในการออกแบบและติดตั้ง ทำให้อาจเป็นฝ้าเพดาน ราคาสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของวัสดุที่เลือกใช้
2. ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบ เป็นฝ้าที่เมื่อติดตั้งไปแล้วจะสามารถเห็นฝ้าเรียบเนียนเป็นผืนเดียวกัน และแผ่นที่นิยมนำมาใช้ทำเป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบในบ้าน คือ แผ่นยิปซัม หรือ ยิปซัมบอร์ด โดยนำมาประกอบเข้ากับโครงฝ้าเพดาน นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งเป็นรูปทรงให้มีเอกลักษณ์ได้ตามลักษณะพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง โดยปกติจะเรียกตามลักษณะการออกแบบ เช่น ฝ้าหลุม ฝ้าสเตป ฝ้าซ่อนไฟ ฝ้าประดับ เป็นต้น
แผ่นยิปซัมที่ใช้สำหรับฝ้าฉาบเรียบมีหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสมของพื้นที่ใช้งานในแต่ละห้อง เช่น แผ่นยิปซัมป้องกันความร้อน เหมาะสำหรับห้องนอนที่อยู่ชั้นบน หรือห้องใต้หลังคาที่มีการสะสมความร้อนสูง แผ่นยิปซัมทนชื้นเหมาะสำหรับห้องน้ำหรือบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่นห้องครัว ส่วนแผ่นยิปซัมลดเสียงสะท้อน หรือ แผ่นยิปซัมป้องกันเสียง นิยมใช้กับห้องโฮมเธียเตอร์ มุมห้องนั่งเล่นที่มีเครื่องเสียง หรือหรือห้องซ้อมดนตรีในบ้าน ฝ้าฉาบเรียบนั้นติดตั้งได้ง่ายกว่าฝ้าเพดานตกแต่ง สามารถสร้างสรรค์ดีไซน์ได้หลายรูปแบบ นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และราคาไม่สูงเท่ากับฝ้าเพดานตกแต่งที่ใช้วัสดุจริงเป็นหลัก
3. ฝ้าเพดานทีบาร์ (T-Bar)
มีลักษณะเป็นโครงคร่าวคว่ำรูปตัวที (T) และเป็นช่องตารางไว้สำหรับวางแผ่นยิปซัมปิดทับ โดยแต่ละช่องจะมีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 60 x 60 เซนติเมตร มีข้อดีคือติดตั้งได้ง่าย ถอดเปลี่ยนได้ทันทีหากแผ่นชำรุด หรือเก่านอกจากนี้สามารถเปิดแผ่นฝ้าขึ้นเพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมงานระบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
โดยมีรุ่นหรือประเภทของฝ้าเพดานทีบาร์ใกล้เคียงกับฝ้าเพดานฉาบเรียบ โดยแผ่นฝ้าทีบาร์นี้สามารถเลือกคุณสมบัติตามความเหมาะสมในการใช้งานของแต่ละห้องได้ จึงเหมาะสำหรับทุกห้อง ตั้งแต่ห้องนอน ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ไปจนถึงห้องน้ำ นอกจากนี้ เรายังสามารถสร้างบรรยากาศให้กับห้องได้โดยการเลือกใช้แผ่นยิปซัมที่มีลวดลายต่างๆ ได้อีกด้วย

การคมนาคม
ทางอากาศ
-วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
-วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ( จันทร์,พุธ,พฤหัสบดี,เสาร์ ) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
รถโดยสารประจำทาง
- เดินทางจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
รถปรับอากาศชั้น 1
-
-
- บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
รถปรับอากาศชั้น 2
-
-
รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
-
-
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
- เดินทางภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
-
-
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย
- เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
-
- ภาคอีสาน ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่
- ภาคกลาง ได้แก่
- ภาคตะวันออก ได้แก่
- ภาคตะวันตก ได้แก่
- ภาคใต้ ได้แก่
- เดินทางระหว่างประเทศ
-
-
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา – นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- 1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- 2. การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ – อุบลราชธานีและกรุงเทพ – หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานีหนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว